Skip to content Skip to footer

การเล่นตามวัย

เมื่อพูดถึงเด็กกันแล้ว สิ่งแรกที่เรามักจะนึกถึงกันเลยก็คือ “การเล่น” ซึ่งการเล่นนั้นก่อให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่เด็กได้อย่างหลากหลาย โดยขณะเล่นเด็กจะได้เรียนรู้การควบคุมและจัดการอารมณ์ของตนเอง มีไอเดียใหม่ๆ เสมอ และสามารถนำมาปรับใช้ได้ในสถานการณ์จริง เรียนรู้ที่จะออกแรงได้อย่างเหมาะสมในแต่ละกิจกรรม รวมถึงได้เรียนรู้ทักษะการสื่อสารเจรจา การทำงานร่วมกัน การแบ่งปันความคิด และสร้างความเห็นอกเห็นใจแก่ผู้อื่น แต่จะเล่นอย่างไรให้มีความเหมาะสมกับช่วงวัย ต้องใช้การเล่นหรือกิจกรรมอย่างไรจึงจะเหมาะสม

วันนี้เราจะมาพูดถึงพัฒนาการการเล่นของเด็ก 5 ขั้นด้วยกันค่ะ

1. การเล่นผ่านการรับรู้การสัมผัสและการเคลื่อนไหว (Sensorimotor) : ช่วงอายุแรกเกิด – 2 ปี

            พัฒนาการการเล่นอยู่ในลักษณะการเล่นสำรวจเล่นคนเดียว โดยเริ่มจากการเล่นซ้ำ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจร่างกายของตัวเองก่อน เช่น เล่นโบกมือไปมาที่ใบหน้าของตนเองและจ้องมอง ต่อมาจะเป็นการสำรวจวัตถุแวดล้อม มีการเล่นปาและโยนสิ่งของซ้ำ ๆ เพื่อสำรวจคุณสมบัติของวัตถุ และลองผิดลองถูกด้วยการเอื้อมมือหยิบจับวัตถุ หยิบเอาของเข้าปาก บีบ เขย่าของเล่นที่มีเสียงซ้ำ ๆ และฟัง โดยจะเล่นผ่านการคลาน เกาะยืน เกาะเดินเพื่อสำรวจสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นทักษะการเคลื่อนไหวใหม่ ๆ รวมถึงมีการพัฒนาทักษะทางสังคมผ่านการเล่นกับพ่อแม่หรือคนในครอบครัว เช่น เล่นจ๊ะเอ๋กับคุณพ่อคุณแม่ ทำท่าทางเลียนแบบคุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น ของเล่นที่เหมาะสมในช่วงวัยนี้ควรเป็นของเล่นทางด้านการรับสัมผัสต่าง ๆ โดยมีความแข็งแรง ปลอดภัยต่อการนำเข้าปาก ไม่แตกง่ายหรือกระจายเป็นชิ้นเล็ก ๆ  เช่น โมบาย สมุดภาพทำจากผ้าหรือวัสดุนิ่ม สีสันสดใส กล่องเพลง บล็อกไม้ ลูกบอล ของเล่นที่ใช้มือกด ดึง หรือดันค่ะ

2. การเล่นแบบสัญลักษณ์ (Symbolic and simple constructive) : ช่วงอายุ 2 – 4 ปี

พัฒนาการการเล่นอยู่ในลักษณะการเล่นแบบสัญลักษณ์ เด็กจะเล่นโดยนำเอาสิ่งหนึ่งมาสมมติเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เช่น ใช้กล้วยแทนโทรศัพท์ นำใบไม้มาเล่นแทนอาหารจริง ซึ่งอาศัยการสร้างจินตภาพหรือจินตนาการถึงสิ่งต่าง ๆ หรือสถานการณ์ที่ไม่ได้มีอยู่ในขณะนั้น แต่การเล่นจะยังไม่ซับซ้อนและเป็นการก่อร่างสร้างแบบง่าย ๆ เด็กจะเล่นอยู่ใกล้ ๆ กับเด็กคนอื่นแบบต่างคนต่างเล่น แต่จะเริ่มพูดคุยและแบ่งปันของเล่นกันเป็นบางครั้ง ชอบฟังนิทานและจินตนาการตามได้ ของเล่นที่เหมาะสมในช่วงวัยนี้ ได้แก่ สีเทียน สีไม้ ดินน้ำมัน ตัวต่อที่สามารถต่อหรือแยกออกจากกันได้ บล็อกรูปทรง จิ๊กซอว์ กระดานหมุด และจักรยานสามล้อค่ะ

3. การเล่นแบบสร้างสรรค์ (Dramatic and complex constructive and pre-game ) : ช่วงอายุ 4 – 7 ปี

          พัฒนาการการเล่นอยู่ในลักษณะการเล่นแบบการแสดงละครสมมติหรือบทบาทสมมติ ซึ่งเป็นการเล่นที่ใช้สัญลักษณ์ขั้นสูงของเด็ก จะมีความซับซ้อน มีรายละเอียด และใช้จินตนาการเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่เด็กพบเห็น เช่น เล่นสมมติว่าตนเองเป็นพ่อ-แม่ เป็นครู-นักเรียน หรือตำรวจ-ผู้ร้าย เด็กจะเล่นสวมบทบาทและสร้างเรื่องราวที่ตนสมมติขึ้น และสามารถเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่มประมาณ 2-5 คน ของเล่นที่เหมาะสมในช่วงวัยนี้ ได้แก่ ตุ๊กตา ลูกปัดและอุปกรณ์ร้อยแบบต่าง ๆ ชุดจำลองการแต่งกาย จิ๊กซอว์มากกว่า 24 ชิ้นหรือตัวต่อ ดินสอสี และสีเมจิก คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนเด็กเล่นแบบสลับกัน ให้มีการรอคอย ทำตามกติกา เนื่องจากช่วงวัยนี้เด็กจะเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบ และส่งเสริมกิจกรรมหรือการเล่นตามที่เด็กสนใจค่ะ

4. การเล่นเกมส์ที่มีกฎ กติกา (Play game with rules) : ช่วงอายุ 7 – 12 ปี

          พัฒนาการการเล่นอยู่ในลักษณะการเล่นที่มีกฎเกณฑ์ กติกา ซึ่งเด็กจะสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อนได้ รู้จักรอคอยให้ถึงรอบการเล่นของตน ผลัดกันเล่นกับเพื่อน การเล่นหรือแข่งขันกีฬาเป็นทีม เด็กจะสามารถเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนที่เป็นเพศเดียวกัน ของเล่นที่เหมาะสมในช่วงวัยนี้ ได้แก่ ชุดต่อประกอบ เกมกระดานที่มีขั้นตอน กฎกติกา หรือใช้ความคิดความจำ งานประดิษฐ์ง่าย ๆ ชุดโมเดลจำลอง และชุดเครื่องเล่นวิทยาศาสตร์ ในช่วงวัยนี้คุณพ่อคุณแม่จะมีส่วนสำคัญในการเรียนรู้เรื่องกฎกติกาหรือการสร้างพฤติกรรมที่เหมาะสม ส่งผลให้เด็กเลือกนำพฤติกรรมที่เห็นไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ

5. กิจกรรมนันทนาการ (Recreation) : 12-16 ปี

          พัฒนาการการเล่นจะเป็นการอาศัยความร่วมมือหรือเป็นกิจกรรมที่ทำเป็นกลุ่ม ท้าทายความสามารถของเด็ก เด็กจะเข้าใจและสามารถทำตามกฎกติกาได้ดีมากขึ้น กิจกรรมส่วนใหญ่จึงเป็นกิจกรรมที่เด็กสนใจ เช่น การแข่งกีฬา การทำกิจกรรมชมรม หรือการทำกิจกรรมที่ต้องสร้างประดิษฐ์ โดยเด็กจะต้องอาศัยทักษะที่ซับซ้อนมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรคอยสนับสนุนอย่างเข้าใจ เปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกและตัดสินใจด้วยตนเอง และการเล่นในช่วงวัยนี้จะสามารถพัฒนาไปเป็นงานอดิเรกหรือกิจกรรมยามว่างได้ค่ะ

จากที่กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า การเล่นมีความสำคัญกับช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นอย่างมาก ดังนั้น การส่งเสริมให้เด็กได้เล่นอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ และผู้ปกครองเองก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการหรือทักษะต่าง ๆ ของเด็ก หากเด็กได้รับการส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ การเล่น ที่สอดคล้องกับวุฒิภาวะและระดับพัฒนาการ จะส่งผลให้เด็กสามารถพัฒนาได้เต็มศักยภาพที่เขามี โดยสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้ผ่านการเล่น คือ การเข้าใจพื้นฐานลักษณะนิสัยของลูกตนเองว่าเป็นอย่างไร ชอบเล่นอะไร มักเล่นในลักษณะใด มีอะไรที่ควรเเนะนำเพิ่มเติม เพราะเด็กเเต่ละคนนั้นจะสามารถเรียนรู้ หรือตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ต่างกันไป ทำการตั้งกฎระเบียบในการเล่น เเต่ต้องมีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เพราะการให้อิสระลูกในการพบเจออุปสรรคหรือปัญหา จะทำให้ลูกเรียนรู้ที่จะเเก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หรือเรียนรู้ถึงความผิดพลาดต่าง ๆ รวมถึงสร้างพื้นที่ให้ลูกได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องอาศัยการเเลกเปลี่ยนความคิดซึ่งนำไปสู่การต่อยอดความคิดใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ ค่ะ

ก้านใบ คลินิกพัฒนาการเด็ก ลพบุรี
ให้บริการประเมิน ส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก
เตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน
ส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน ทักษะEF
โทร 097-9378319 

Leave a comment