เลี้ยงลูกให้ปรับตัวง่าย

เลี้ยงลูกให้ปรับตัวง่ายและอารมณ์ดีง่ายนิดเดียว

          สวัสดีค่ะผู้ปกครองทุกท่านวันนี้ก้านใบ คลินิกพัฒนาการเด็กลพบุรี มีเคล็ด (ไม่) ลับที่จะช่วยส่งเสริมให้ลูกของเราเติบโตไปเป็นเด็กที่อารมณ์ดีและปรับตัวต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายมาฝากกันค่ะ ซึ่งหากจะกล่าวถึงความสามารถในการปรับตัวของเด็กนั้น จะไม่พูดถึงพัฒนาการทางด้านสังคมและอารมณ์ (Social emotional) คงไม่ได้ เพราะทักษะทางด้านสังคมและอารมณ์เป็นเหมือนสะพานที่จะช่วยให้เด็กสามารถเชื่อมต่อตนเองเข้ากับสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ ทำให้เด็กสามารถเข้าใจตนเองและผู้อื่น สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีได้ รวมทั้งช่วยให้เด็กปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ที่ตนเองไม่คุ้นเคยได้ เช่น รับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นและสามารถสะท้อนความรู้สึกของผู้อื่นได้ มีความเห็นอกเห็นใจ รู้กาละเทศะในการแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ รับรู้อารมณ์ของตนเองและเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์และพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม เป็นต้น

ผู้ปกครองรู้ไหมคะว่าทักษะนี้เป็นทักษะที่เด็กสามารถเกิดการเรียนรู้ได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ โดยเกิดขึ้นในทันทีที่เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบ ๆ ตัว ซึ่งเด็กจะเกิดการเรียนรู้จากพฤติกรรมที่ได้เห็นและอารมณ์ที่ตนเองได้ซึมซับมา ดังนั้นเราลองมาดูกันนะคะว่าพัฒนาการทางด้านทักษะสังคมและอารมณ์ของมนุษย์เรานั้นเป็นอย่างไรบ้าง

– ช่วงอายุ 0-3 เดือน: เริ่มยิ้มให้ผู้คนรอบ ๆ ตัวและผู้ดูแลที่ใกล้ชิด

          – ช่วงอายุ 4-6 เดือน: มีอารมณ์ร่วมกับการเล่นกับผู้ดูแล/ผู้ปกครอง เมื่อเล่นด้วยสามารถยิ้มตามได้

          – ช่วงอายุ 7-9 เดือน: เล่นเกมจ๊ะเอ๋ (Peek a boo) ได้

          – ช่วงอายุ 10-12 เดือน: สามารถเลียนแบบท่าทางง่าย ๆ จากคนรอบตัวได้ เช่น สวัสดี โบกมือลา เป็นต้น

           ช่วงอายุ 1-2 ปี: สามารถเล่นของเล่นในสถานที่ที่มีเพื่อนคนอื่น ๆ อยู่รอบ ๆ ได้ แต่มักจะยังไม่แบ่งของเล่น มักมีความคิดเป็นของตนเอง ต้องการเป็นจุดสนใจของทุกคน

          – ช่วงอายุ 2-3 ปี: สามารถเลียนแบบกิจกรรมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้ เช่น การทำอาหาร การทำความสะอาด การดูแลตนเอง เป็นต้น มักเป็นช่วงวัยที่มีอารมณ์พัฒนาขึ้นอย่างหลากหลายและซับซ้อน

          – ช่วงอายุ 3-4 ปี: เริ่มแบ่งของเล่นให้เพื่อนได้เก่งขึ้น มักบอกความต้องการของตนเองผ่านการพูดสื่อสารแทนการการกรีดร้องโวยวาย เริ่มมีทางเลือกเป็นของตนเอง เช่น การแต่งตัว อาหารที่ชอบ เป็นต้น

          – ช่วงอายุ 4-5 ปี: เริ่มมีเพื่อนสนิท สามารถทำตามกติกาในการเล่นร่วมกันกับผู้อื่นได้ดีขึ้น เริ่มเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น

จากที่อ่านมาถึงตรงนี้เริ่มเห็นความสำคัญของทักษะด้านสังคมและอารมณ์กันแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านสังคมและอารมณ์แล้วนั้น เรายังมีเคล็ด (ไม่) ลับ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ลูกของทุกท่านมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์และสังคมที่สมวัยมาฝากกันด้วยค่ะ

          เคล็ด (ไม่) ลับที่จะแชร์ต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ โดยเริ่มจากในช่วงแรกเกิด เราควรให้การตอบสนองต่อสิ่งที่เด็กต้องการอย่างทันท่วงที เช่น การรับประทานอาหาร การอาบน้ำ การทำความสะอาด รวมไปถึงผู้ปกครองควรทำให้เด็กเกิดความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย หากเมื่อเขาร้องไห้เราควรอยู่ข้าง ๆ เขา เพราะจะทำให้เด็กรับรู้ว่ายังมีเราอยู่ข้าง ๆ เขาเสมอ และเมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เด็กตื่นควรส่งเสริมให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การฝึกนอนคว่ำ การเล่นจ้องหน้า เป็นต้นค่ะ

เมื่อเด็กโตขึ้นควรส่งเสริมการทำกิจกรรมที่ช่วยให้เกิดการผ่อนคลายตนเองให้กับเด็ก โดยการผ่อนคลายตนเองนี้จะเป็นเทคนิคที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เกิดพัฒนาการทางด้านอารมณ์และสังคมที่ดี เช่น การทำสมาธิ การทำกิจกรรมที่มีความสนุกสนานเพื่อสลายพลังงาน เพราะการเคลื่อนไหวจะช่วยให้เด็กสามารถควบคุมจัดการอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้นค่ะ มีคำกล่าวว่าสิบปากว่ายังไม่เท่าตาเห็น ดังนั้นการทำตัวอย่างให้เด็กเห็นถึงพฤติกรรมที่เหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นหน้าที่ที่สำคัญสำหรับผู้ดูแล/ผู้ปกครอง เพราะเด็กจะเกิดการเรียนรู้จากตัวอย่างที่เห็นได้ดีกว่าคำสอนที่เราบอกค่ะ

การให้เวลาแก่ลูกร่วมกับการให้ความรัก ความผูกพันธ์ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย พร้อมที่จะไปเผชิญกับโลกภายนอกได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน เขาจะเกิดการเรียนรู้และเชื่อมั่นว่าตนเองจะสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์นั้นและผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน ทางก้านใบ คลินิกพัฒนาการเด็กลพบุรีขอขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ปกครองทุก ๆ ท่านค่ะ

ก้านใบ คลินิกพัฒนาการเด็ก ลพบุรี
ให้บริการประเมิน ส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการเด็ก
เตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน
ส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน ทักษะEF
โทร 097-9378319